บทประพันธ์ พงศกร
“…ทุกฝีเข็ม ทุกเส้นไหม ทุกลมหายใจ…ข้าขอพยาบาทจองเวรมันไปจนชั่วลูกชั่วหลาน…ขอสาปขอแช่งพวกมันไปจนชั่วนิรันดร์…”
เสียงสาปแช่งของ เจ้าสีเกด ดังก้องกังวานควบคู่ไปกับเสียงปักไหมในสะดึงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพื่อแข่งกับแสงอาทิตย์ที่กำลังทอแสงขึ้นและยามนั้นชีวิตของเธอจะต้องลาจากไป แต่ความแค้นความพยาบาทยังคงฝังอยู่ในผืนผ้าที่สวยงาม พร้อมกับคำสาปแช่งที่ส่งไปชั่วลูกชั่วหลานของผู้ที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด !
ในอดีตกาล…เกิดเรื่องน่าสะพรึงขึ้นภายในวัง เมื่อเจ้าสาวถึงสามคนต้องสิ้นใจตายในวันแต่งงานของพวกเธออย่างปริศนา เสด็จในกรมฯเชื่อว่าสาเหตุของการตายต้องเกิดจาก “ผ้าตาดทอง” ที่เจ้าสาวทุกคนใส่ในวันงาน เสด็จในกรมฯจึงมีรับสั่งให้นำผ้าเจ้าปัญหาผืนนี้ไปเก็บไว้ในหีบให้มิดชิด เพื่อมิให้ผู้ใดต้องสังเวยชีวิตให้กับมันอีก
ปัจจุบัน…ไหมพิม หญิงสาวกำพร้าผู้ที่รักและชื่นชอบเรื่องผ้าโบราณเป็นชีวิตจิตใจได้รับความเมตตาจาก ปรีชญา เจ้าของร้านตาดทองให้เธอเข้าทำงานที่ร้านได้ทันที หลังจากที่ไหมพิมเรียนจบจากคณะพัสตราภรณ์
วันหนึ่งในขณะที่ไหมพิมกำลังง่วนกับการทำงานอยู่ในร้านตามลำพัง เพราะ นุช พนักงานอีกคนของร้านขอกลับบ้านเร็วเพื่อไปทำธุระส่วนตัว ชายลึกลับ ท่าทางเมาคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาในร้านพร้อมห่อผ้าสีขาว แล้วอาละวาดอยู่ในร้าน แต่โชคดีที่ พชร สถาปนิกหนุ่มเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ชายลึกลับจึงหนีไปแต่ก็ทำห่อผ้าสีขาวตกเอาไว้ และเมื่อไหมพิมเปิดดูห่อผ้า เธอก็พบผ้าตาดทองโบราณที่สวยงามมากผืนหนึ่ง
เมื่อ มณีกัญญา หุ้นส่วนร้านตาดทองอีกคนกับปรีชญารู้เรื่องชายลึกลับก็รีบมาที่ร้านทันที ไหมพิมจึงได้รู้ว่าพชรเป็นพี่ชายของมณีกัญญา มณีกัญญาโวยวายหาว่าไหมพิมก่อเรื่องให้ร้าน เพราะเธอไม่ค่อยชอบไหมพิมสักเท่าไหร่ แต่พอเธอเห็นผ้าตาดทองของชายลึกลับก็ชอบมากอยากจะเก็บเอาไว้เองโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของใครเลย ไหมพิมจึงต้องนำผ้าตาดทองไปเก็บไว้ในเซฟหลังร้านตามคำสั่งของมณีกัญญา และทันทีที่ตู้เซฟปิดลง วิญญาณของ “เจ้าสีเกด” ก็ปรากฏร่างขึ้น และยืนมองคนทั้งสี่ด้วยสายตาเคียดแค้น
คืนนั้นไหมพิมนำห่อผ้าสีขาวของชายลึกลับใส่ผ้าของร้านกลับไปซ่อมต่อที่บ้าน แล้วไหมพิมก็ฝันเห็นหญิงสาวในชุดไทยโบราณกำลังนั่งปักผ้าตาดทองอยู่ พร้อมกับสวดภาวนาอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วพอหญิงผู้นั้นหันหน้ามา ไหมพิมก็เห็นหน้าของเธอนั้นเน่าเละเหมือนซากศพ
ไหมพิมสะดุ้งตื่นจากความฝัน แล้วเธอก็พบชายลึกลับคนเดิมกำลังงัดหน้าต่างบ้านของเธออยู่ ไหมพิมตกใจจนเป็นลมไป แต่โชคดีที่พชรตามไปที่บ้านของไหมพิมตามที่อยู่ที่ปรีชญาให้ เพราะเขาผิดสังเกตที่ไหมพิมไม่รับโทรศัพท์ พชรจึงพบไหมพิมนอนสลบอยู่ เขาเลยพาเธอส่งโรงพยาบาล
ทาวิธ นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกล คู่หมั้นของปรีชญา รีบส่ง ภาติยะ ลูกน้องของเขามารับแจ้งความทันที เพราะทาวิธต้องการเอาใจไหมพิมเนื่องจากแอบชอบไหมพิมอยู่ แต่ทันทีที่ภาติยะพบไหมพิม เขาก็เกิดหลงรักหญิงสาวขึ้นมาอีกคน หลังจากนั้นเขาจึงหมั่นมาหาไหมพิมโดยเอาเรื่องคดีของชายลึกลับมาอ้างอยู่บ่อยๆ
มณีกัญญากลัวชายลึกลับจะกลับมาอีก เธอเลยเอาผ้าตาดทองออกจากตู้เซฟของร้านแล้วนำกลับไปที่บ้าน แต่เมื่อ คุณยายรตา ยายของมณีกัญญาและพชรเห็นเข้า ก็เกิดมีอาการตกใจกลัวอย่างมาก มณีกัญญาจึงนำผ้าไปฝากไว้ที่บ้านของปรีชญาแทน โดยให้ คุณยายรณี ยายของปรีชญาช่วยดูแลให้ แต่หลังจากนั้น ธง กับ มะลิ คนรับใช้เก่าแก่จอมจุ้น ก็เริ่มเห็นสิ่งประหลาดเกิดขึ้นในบ้านอยู่บ่อยๆ
เมื่อไหมพิมรักษาตัวจนหายดี พชรก็พาเธอไปอยู่ที่บ้านของปรีชญา เพราะปรีชญากับคุณยายรณีเป็นห่วงความปลอดภัยของไหมพิม ไหมพิมจึงยอมอยู่ด้วยความซาบซึ้งใจ แต่เมื่อทาวิธกลับมาจากต่างจังหวัด เขาก็รีบรุดมาเยี่ยมไหมพิมที่บ้านปรีชญาทันที แต่หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรกับทาวิธเลย เธอคิดแต่ว่าทาวิธเป็นคู่หมั้นของผู้มีพระคุณเท่านั้น
ฝ่ายวิญญาณเจ้าสีเกดที่มากับผ้าตาดทองผืนเจ้าปัญหา และวนเวียนอยู่บ้านของปรีชญา พอได้เห็นหน้าคู่หมั้นของปรีชญาก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวจนทำให้เกิดลมกรรโชกแรงอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เพราะชาติที่แล้วทาวิธคือ “หม่อมทัด” ขุนนางตำรวจที่หลงรักเจ้าสีเกด หลานปู่ของ “เจ้าติสสะ” เจ้าเมืองเหนือ และมี “นางผิว” เป็นคนรับใช้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และหลังจากนั้นเขาก็ตามจีบทำให้เจ้าสีเกดหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ
วันหนึ่ง…ทาวิธถูกยิงในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เขาไม่สามารถเดินได้เป็นปกติอีกต่อไป ปรีชญาจึงขอให้ทาวิธไปอยู่ที่บ้านเธอเพื่อเธอจะได้ดูแลได้สะดวก โดยปรีชญาไม่รู้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทาวิธได้ใกล้ชิดกับไหมพิมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าสีเกดก็สะกดให้ไหมพิมยั่วยวนทาวิธเพื่อหวังจะให้ความรักของทาวิธกับปรีชญาร้าวฉาน มณีกัญญาสังเกตเห็นท่าทีของไหมพิมที่มีต่อทาวิธก็รู้สึกหึงขึ้นมา เพราะมณีกัญญาเองก็แอบรักทาวิธมานานแล้ว เธอจึงพูดจาดูถูกและหาทางกลั่นแกล้งไหมพิมอยู่เสมอ ฝ่ายวิญญาณเจ้าสีเกดที่แอบดูอยู่นั้น ก็คิดว่ามณีกัญญายังมีจิตใจสกปรกเหมือนสมัยอดีตที่มณีกัญญาหรือ “หญิงโฉม” ในชาติที่แล้ว กับ “นางจวง” คนรับใช้ของหญิงโฉม คอยหาเรื่องแกล้งเจ้าสีเกดกับนางผิวอยู่เสมอ เพราะหญิงโฉมหมั่นไส้ที่เสด็จฯโปรดปรานการปักผ้าของเจ้าสีเกดมากกว่าตน แต่ “หญิงฉาย” หรือปรีชญาในชาติที่แล้วซึ่งเป็นน้องสาวผู้อ่อนโยนของหญิงโฉมก็มาคอยห้ามไม่ให้หญิงโฉมแกล้งเจ้าสีเกด
พชรได้ไปพบกับ แทนไท และ ภุมรี สองสามีภรรยาเจ้าของสายการบินชื่อดัง ซึ่งเป็นลูกค้าคนใหม่ของบริษัท เพราะแทนไทต้องการจ้างพชรให้ตกแต่งพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณให้กับภรรยาของเขาซึ่งชื่นชอบเรื่องผ้าโบราณมาก
พชรจึงไปขอความช่วยเหลือเรื่องข้อมูลผ้าโบราณจากปรีชญา แต่ปรีชญากำลังยุ่งกับการดูแลทาวิธ จึงให้พชรไปขอความช่วยเหลือจากไหมพิม พชรเลยได้ใกล้ชิดกับไหมพิมและเริ่มแอบรักไหมพิมอย่างเงียบๆ
ทาวิธไม่พอใจที่พชรกับไหมพิมใกล้ชิดกัน ในขณะที่ปรีชญาคิดว่าทาวิธหงุดหงิดเพราะเดินไม่ได้เหมือนเก่า เธอเลยจะพาเขาไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ในช่วงปีใหม่ มณีกัญญาขอไปด้วยโดยอ้างว่าจะไปดูผ้าโบราณเข้าร้าน แต่ความจริงแล้วเธอต้องการใกล้ชิดทาวิธต่างหาก
คืนก่อนวันเดินทาง ปรีชญาจัดงานเลี้ยงปีใหม่ขึ้นที่บ้าน แล้วคุณยายรณีก็เกิดเป็นลมกะทันหันหลังจากเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดจากผ้าตาดทอง ปรีชญาเลยขอให้พชรมาอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนคุณยายรณีและไหมพิมในช่วงที่เธอไม่อยู่ พชรเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่คืนนั้นเองไหมพิมก็ได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่าง จึงรีบลงไปดูด้วยความลืมตัวว่าอยู่ในชุดนอน แล้วเธอก็พบทาวิธยืนรออยู่ ทาวิธจึงนำผ้าตาดทองที่ตกอยู่มาห่มให้หญิงสาว ทำให้เจ้าสีเกดสามารถเข้าสิงร่างไหมพิมได้ และสะกดให้ไหมพิมจูบทาวิธอย่างเร่าร้อน พชรเดินเข้ามาเห็นพอดี พชรเสียใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไหมพิมจะกล้าหักหลังปรีชญาได้ลงคอ แต่พชรก็ไม่อยากจะให้ปรีชญาเสียใจ เขาจึงคิดจะเก็บเรื่องที่เห็นไว้เป็นความลับ โดยไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เขาเดินกลับเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ นั้น วิญญาณของเจ้าสีเกดก็ออกจากร่างของไหมพิม ทำให้ไหมพิมเป็นลมไปทันทีโดยที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในขณะที่ทาวิธก็ย่ามใจว่าไหมพิมก็แอบมีใจให้กับเขาเหมือนกัน
หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น พชรก็มีท่าทีเหินห่างและคอยหลบหน้าไหมพิมอยู่ตลอดเวลา ไหมพิมไม่เข้าใจว่าพชรเป็นอะไรไปจึงหาโอกาสดักพบเพื่อปรับความเข้าใจกับเขา พชรจึงถือโอกาสนี้เตือนไหมพิมว่าไม่ให้หักหลังปรีชญา ไหมพิมเสียใจที่พชรเข้าใจตนผิด แล้วคืนนั้นไหมพิมก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจจนหลับไปบนผ้าตาดทอง เธอจึงฝันเห็นภาพปรีชญากับทาวิธในอดีตชาติ ในขณะที่กำลังทำพิธีแต่งงานกัน เมื่อตื่นขึ้นมาไหมพิมก็คิดว่าที่ตนฝันเห็นไปนั้น เป็นเพราะหมกมุ่นคิดอยู่แต่กับเรื่องของปรีชญาและทาวิธจนเก็บเอาไปฝัน จึงไม่ติดใจอะไร
ส่วนพชรก็ผิดหวังในตัวไหมพิมมากจนเกือบจะเก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน เพราะเขาเห็นว่าคุณยายรณีหายดีแล้ว แต่เจ้าสีเกดต้องการจะปั่นหัวให้ทาวิธหึงพชร เธอเลยสิงให้ไหมพิมนำมีดไปปักหน้าบ้าน พอตอนเช้าพชรพบมีดปักอยู่ที่หน้าบ้านเขาก็ตกใจมาก จึงรีบเรียกภาติยะให้มาตรวจ ภาติยะสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของชายลึกลับที่ตามมาขู่ไหมพิมเรื่องผ้าโบราณ พชรจึงอดเป็นห่วงไหมพิมไม่ได้ เลยตัดสิน ใจอยู่ที่บ้านปรีชญาต่อไป
ปรีชญาโทรไปบอกไหมพิมว่าต้องเลื่อนการกลับกรุงเทพฯออกไปอีก เพราะมณีกัญญาอ้างว่าจะต้องไปคุยเรื่องผ้าโบราณกับเจ้านางท่านหนึ่ง
เรื่องย่อ สาปภูษา รูปนักแสดง เรื่องย่อละคร สาปภูษา
,สาปภูษา นักแสดง,นัก แสดง สาป ภูษา,ภาพละครซ่อ7ละครสาปภูษา,โหลด เพลง ประกอบ ละคร สาป ภูษา,ภาพนักแสดงเรื่องสาปภูษาตอนจบ,นักแสดง สาปภูษา,ภาพละครสาปภูสา,ภาพประกอบละครสาปภูษา,หารูปนักแสดงเรื่องสาปภูษา,mvเรื่งโบราน,รูปละครเรื่องสาปภูสา, สาปภูษา นัก่แสดง,นักแสดงเรื่องหนึ่งมิดชิดใกล้,คนที่แสดงเป็นตำรวจในเรื่องสาปภูษา,6,เพลงสาปภูษา เสียงตอนสาป,นักแสดงสาปภูษา,นัก แสดง เรื่อง สาป ภูษา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น